วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทำความรู้จักกับข้าวสาลี อีกครั้ง


ที่มาของข้าวสาลีในประเทศไทย

น้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลีมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง


 
 
                                                                                    
              Wheatgrass ต้นกล้าข้าวสาลี
 
                การปลูกวีทกลาสเพื่อคั้นน้ำ เป็นงานอดิเรกที่น่าทำอย่างมาก เพราะวีทกลาสเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และ โปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย  จากการวิจัยยังพบว่าวีทกลาสเป็นแหล่งอาหารที่มี คลอโรฟิลล์วิตามินบี-6 วิตามินบี-12 วิตามินเค วิตามินซี และ เบตาคาโรทีน(สารตั้งต้นของวิตามินเอ)ในปริมาณสูง  นอกจากคุณจะได้ความเพลิดเพลินจากการปลูกวีทกลาสแล้ว คุณยังได้รับคุณประโยชน์อีกมากมายจากน้ำคั้นวีทกลาส 

คุณประโยชน์จากน้ำคั้นวีทกลาส

        เป็นแหล่งที่มาของคลอโรฟิลล์    คลอโรฟิลล์ในน้ำคั้นวีทกลาสเป็นคลอโรฟิลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่ซึ่งจะมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าคลอโรฟิลล์แบบเม็ดมากมาย  คลอโรฟิลล์มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
•      คลอโรฟิลล์ ช่วยร่างกายล้างพิษที่ตับ
•      คลอโรฟิลล์ ช่วยล้างพิษในเนื้อเยื่อต่างๆ
      คลอโรฟิลล์ ช่วยฟอกมลภาวะและฟื้นฟูระบบหลอดเลือด เพราะโมเลกุลของมันคล้ายโมเลกุลของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือด
•      คลอโรฟิลล์ มีฤทธิ์ต้านเชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อที่เป็นอันตราย
•      คลอโรฟิลล์  ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด
•        เป็นแหล่งที่มาของแร่ธาตุที่สำคัญ  จากการวิจัยพบว่าในวีทกลาส ที่ปลูกแบบธรรมชาติ(Organic) จะมีแร่ธาตุมากกว่า 100 ตัวที่มนุษย์ต้องการในนั้น   และ 90%ของแร่ธาตุนี้มาจากดินที่ใช้ปลูก
•        น้ำคั้นวีทกลาส ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น
•        น้ำคั้นวีทกลาส ช่วยกระตุ้นให้เรามีพลัง ทำงานได้ดีขึ้น หลับได้สนิท 

วิธีปลูกวีทกลาส

•        การเลือกภาชนะที่จะใช้ปลูก
            ที่จริงแล้วเราสามารถใช้ภาชนะอะไรก็ได้มาปลูกวีทกลาส ไม่ว่าจะเป็นขันน้ำเก่าๆ หม้อเก่าๆ ถาด  กล่องพลาสติค กะละมัง หรือกระถาง ขอเพียงให้มีความสูงเพียงพอคือประมาณ 3 นิ้ว       นำดินดีๆมาใส่ให้ดินมีความหนาต่ำกว่าขอบ 1นิ้ว  ดินที่ใช้ควรรดน้ำให้มีความชื้นพอประมาณ อย่าให้แฉะ  และควรเป็นดินที่ไม่มีสารเคมีปนเปื้อนไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีหรือยาฆ่าแมลง 
•        การปลูก
เมล็ดพันธุ์ข้าวสาลี   คุณสามารถหาซื้อได้จากร้านที่ขายธัญพืชสำหรับทำน้ำRCทั่วไป  ยังมีที่ตลาดอตก.  ร้านมังสวิรัติของพลตรีจำลอง จตุจักร  ร้านพลังบุญ สุขาภิบาล 3  ซึ่งนอกจากจะปลอดภัยแล้วยังมีราคาถูก ไม่จำเป็นต้องไปหาจากร้านขายเมล็ดพันธุ์พืช และอาจจะหาไม่ได้อีกด้วย
วิธีปลูก  ง่ายมากเพียงแค่โรย เมล็ดข้าวสาลีลงบนดินที่เตรียมไว้ แล้วเกลี่ยให้เรียบ อย่าให้เมล็ดซ้อนทับกัน  กดให้เมล็ดจมดินเล็กน้อย แล้วนำดินมาโรยกลบบางๆ รดน้ำให้ชื้นพอหมาดๆ  เมืองไทยไม่มีปัญหาเรื่องความชื้นไม่เพียงพอ จึงควรระวังว่าจะรดน้ำมากไปจนแฉะ ทำให้รากเน่าได้  
 
         
 
        3 4 วันต่อมา
ต้นกล้าวีทกลาส จะเริ่มงอกให้เห็น  ควรจะเริ่มนำไปตั้งให้รับแสงแดดในที่ๆอากาศถ่ายเท  เพราะแสงแดดและออกซิเจนในอากาศเป็นองค์ประกอบหลักที่วีทกลาสใช้สร้างคลอโรฟิลล์ และยังทำให้วีทกลาสที่ปลูกมีใบอวบหนา   วีทกลาสที่ปลูกในที่ที่มีแสงไม่เพียงพอจะมีสีที่ซีดใบผอมบาง 
•       7 10 วัน
ช่วงเวลาสำหรับการเก็บเกี่ยว  วีทกลาสในช่วงเวลานี้มีความสูงที่เหมาะสมที่จะตัดมาทำน้ำคั้นวีทกลาส   เราสามารถตัดซ้ำอีกรอบสองรอบถ้าปลูกด้วยวิธีที่แนะนำนี้  ดังนั้นเพื่อให้มีผลผลิตที่เพียงพอสำหรับทานทุกวัน  คุณควรจะปลูกหลายๆรุ่นเว้นช่วงห่างกัน 2- 3 วัน 
หมายเหตุ  หนังสือหลายเล่มแนะให้เก็บเกี่ยวประมาณวันที่ 8 
ด้วยวิธีง่ายๆเท่านี้ คุณก็สามารถสร้างแหล่งอาหารที่มีประโยชน์ ด้วยตัวคุณเอง
 
เรียบเรียงโดย :  ทพ.จักรชัย ทพญ. ภัทรา สมพลพงษ์ 
สนับสนุนโดย : บริษัท  กู๊ดเฮลท์ (ประเทศไทย) จำกัด
ขอขอบคุณ  คุณ สมเกียรติ   แสงสุเรนทร์  ที่ช่วยแนะนำข้อมูลเมล็ดพันธุ์ข้าวสาลี

 

            น้ำคั้นวีทกลาสมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 90 ชนิด ตั้งแต่  แคลเซียม , แมกนีเซียม , โปตัสเซียม , เหล็ก และ โซเดียม มีกรดอะมิโนไม่ต่ำกว่า 20 ชนิด  และมีเอนไซม์ไม่ต่ำกว่า 30 ชนิด   น้ำคั้นวีทกลาส ช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายดีขึ้น  ช่วยระบบการย่อยอาหาร  ช่วยในเรื่องของการเผาผลาญพลังงานและอาหาร  ช่วยในเรื่องการแลกเปลี่ยนออกซิเจน  และช่วยระบบควบคุมต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น 
            มีการใช้น้ำคั้นวีทกลาสกันมานานแล้วสำหรับทำความสะอาดระบบเลือด  น้ำคั้นวีทกลาส ยังช่วยชะล้างสารพิษออกจากร่างกาย  นอกจากนี้ในน้ำคั้นวีทกลาส เรายังพบสารซาโปนิน (Saponin) ซึ่งมีฤทธิ์กำจัดสารพิษออกจากร่างกายในระดับเซลล์และจากระบบน้ำเหลืองของร่างกาย
            น้ำคั้นวีทกลาสมีคลอโรฟิลล์ซึ่งมีออกซิเจนมาก  ช่วยให้สมองและเนื้อเยื่อมีออกซิเจนที่พอเพียง  ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
            น้ำคั้นวีทกลาส จัดเป็นอาหารที่มีคุณค่าสูง   วีทกลาส หนักเพียง 15 ปอนด์  มีคุณค่าเทียบเท่าผักสดทั่วไปน้ำหนัก 350 ปอนด์  น้ำคั้นวีทกลาส ไม่มีอันตราย เพราะเป็นของธรรมชาติ และยังอุดมไปด้วยวิตามิน เอนไซม์ ที่ยังมีชีวิต  ร่างกายสามารถนำไปใช้งานได้ทันที
ส่วนประกอบที่พบในน้ำคั้นวีทกลาส
วิตามิน                 : วิตามินเอ , วิตามินบี , วิตามินซี , วิตามินอี
คลอโรฟิลล์           : มีคลอโรฟิลล์ถึง 70% ซึ่งคลอโรฟิลล์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ  สามารถช่วยปกป้องเราจากสารก่อมะเร็งต่างๆ  ช่วยทำความสะอาดระบบหมุนเวียนโลหิต  ช่วยลดพิษจากมลภาวะต่างๆ  นอกจากนั้นในวีทกลาส ยังมีสารประกอบซึ่งช่วยกำจัดพิษจากตับ  และส่งเสริมการทำงานของตับ
คลอรีน               : ช่วยลดการสะสมของไขมัน
แมกนีเซียม        : ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน
อะมิโนแอซิด      : เป็นองค์ประกอบหลักของโปรตีน ใช้สำหรับการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและสร้างเซลล์ใหม่ ในน้ำคั้นวีทกลาสมีอะมิโนแอซิดมากมายดังนี้
Absensic, Alanine, Arginine, Aspartic, Histidine, Isoleucine, Leucine, Lysine, Methionine, Phenylanine, Proline, Serine, Threonine, Tryptophan, Valine
เอนไซม์          : เป็นองค์ประกอบหลักของขบวนการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย      เอนไซม์ที่ค้นพบในน้ำคั้นวีทกลาส ดังนี้
Protease, Amylase, Superoxde Dismutase, Cytrochrome Oxidase , Transhydrogenase, Lipase
  ยิ่งอ่านท่านผู้อ่านยิ่งพบว่า น้ำคั้นวีทกลาส เป็นอาหารที่มีคุณค่ามากที่สุดชนิดหนึ่ง  และก็มีผลการวิจัยก็ยืนยันเรื่องนี้  จนทำให้ผู้เขียนอยากจะถามท่านผู้อ่านว่า วันนี้คุณคิดทำน้ำคั้นวีทกลาส ทานเองกันหรือยัง

เรียบเรียงโดย
บริษัท กู๊ดเฮลท์ (ประเทศไทย) จำกัด
********************************** 

ขอบคุณ http://www.rakbankerd.com



การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ข้าวสาลี

การเลือกพันธุ์

จะต้องเลือกพันธุ์ข้าวสาลีให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม รวมทั้งการนำไปใช้ประโยชน์ พันธุ์ข้าวสาลีที่เหมาะสำหรับปลูกในประเทศไทย มีดังนี้

สะเมิง ๑ (INIA ๖๖) เหมาะสำหรับปลูกในภาคเหนือตอนบน ค่อนข้างต้านทานโรคราสนิมใบ ให้แป้งอเนกประสงค์ที่มีคุณภาพดี มีโปรตีนสูง (๑๒-๑๕%) เหมาะสำหรับทำขนมปัง

สะเมิง ๒ (Sonora ๖๔) เป็นข้าวสาลีพันธุ์เบา ทนร้อน เหมาะสำหรับปลูกในสภาพไร่อาศัยน้ำฝน และปลูกหลังนาปี ไม่ต้านทานโรคราสนิมใบ แป้งมีความยืดหยุ่นปานกลาง แป้งมีสีคล้ำ มีโปรตีนสูง (๑๒-๑๔%) แป้งใช้ทำขนมปังได้

ฝาง ๖๐ (# ๑๐๑๕) เหมาะสำหรับปลูกในที่ร้อนและแห้งแล้ง ทั้งในสภาพไร่อาศัยน้ำฝน และสภาพนาชลประทานในภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีช่วงฤดู หนาวสั้น ค่อนข้างต้านทานโรคราสนิมใบ ให้แป้งอเนกประสงค์ โปรตีนปานกลาง (๑๐-๑๑%) เหมาะสำหรับทำคุกกี้ บิสกิต และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ต้องการแป้งที่เหนียวมาก

แพร่ ๖๐ (UP ๒๖๒) เหมาะสำหรับปลูกในเขตชลประทานที่เป็นสภาพนาดินเหนียวปนทราย ภูมิอากาศค่อนข้างหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่อนข้างต้านทานโรคราสนิมใบ ให้แป้งอเนกประสงค์ มีโปรตีนปานกลาง (๑๐-๑๑%) เหมาะสำหรับทำคุกกี้ ปาท่องโก๋ โรตี

อินทรี ๑ (KU HR # ๑๒) เหมาะสำหรับปลูกในเขตชลประทาน ใช้ทำแป้งอเนกประสงค์ได้

อินทรี ๒ (KU HR # ๖) ทนอากาศร้อนและแห้งแล้งได้ดี ใช้ทำแป้งอเนกประสงค์ได้

การเตรียมเมล็ดพันธุ์

เมล็ดพันธุ์ที่ใช้ต้องมีความงอกไม่ต่ำกว่า ๘๐% นำเมล็ดพันธุ์ใส่อ่างแช่ในน้ำสะอาด ตากแดดนาน ๑๕ นาที เอาเมล็ดขึ้นเกลี่ยบนผ้าใบหรือผ้าพลาสติก ตากแดดจนแห้งสนิท แล้ว เอาไปปลูกทันที ห้ามเก็บเมล็ดข้ามวัน ถ้าไม่ทำดังกล่าว จะใช้เมล็ดแห้งปลูกก็ได้

ใช้สารเคมีจำนวน ๒ ชนิด คลุกเมล็ดก่อนปลูก โดยผสมเข้าด้วยกัน ได้แก่

๑. คาร์โบซัลฟาน (carbosulfan) เป็นสารเคมีป้องกันแมลงที่อยู่ในดิน ใช้ในอัตรา ๕ กรัมต่อน้ำหนักเมล็ดข้างสาลี ๑ กิโลกรัม

๒. คาร์บ็อกซิน (carboxin) เป็นสารเคมีป้องกันโรคต้นแห้งอันเกิดจากเชื้อรา ใช้ในอัตรา ๐.๕-๒.๕ กรัมต่อเมล็ดหนัก ๑ กิโลกรัม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น