วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554

พันธมิตร แฉความไม่ชอบมาพากลของ รัฐบาลประชาธิปัตย์

พันธมิตรแฉ 83 ข้อเสีย รัฐบาลประชาธิปัตย์


ลองอ่านดู จริงไม่จริง ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของท่านผู้อ่าน ครับ




ความคิดเห็นที่ 5





ผลงานของ “นายกฯศรีธนญชัยแต๋วแตกขายชาติแห่งพรรคประชาธิเปรต & รัฐบาลโจรเสื้อนอก” ชี้ชัด ไม่ต่างเอี้ยหางแดง.

1 ประชานิยมผลาญเงินหลวง แจกลูกเดียวฟรีมันทุกอย่าง (มอมเมาประชาชนซื้อเสียงล่วงหน้า)

2 มีแต่กู้(อ้างโครงการไร้สาระและเอางบประมาณมาแดกกันแถมแก้กฎหมายกู้เงินอาจนำพาไปสู่หายนะทางการเงิน)

3. แต่งตั้งตำรวจเลวให้มีอำนาจประเทศชาติไร้ซึ้งความยุติธรรม

4. รัฐมนตรี ข้าราชการ สส มีแต่พวกสกปรก เช่น สุเทพ/ประวิทย์/โสภณ ซาเล้ง/พัชรวาท/เนวิน/อนุพงษ์/ปู่ชัย/แถมเอาเจ้าแม่อ่าง อบ นวดมาบริหารประเทศ คุมกระทรวงพานิชย์ฯลฯ

5. กระทรวงต่างๆมีแต่ข่าวคอรับชั่น เช่น โกงเรื่องปลากระป๋องเน่า/ข้าวสารเน่า (เน่าแล้วเน่าอีกเน่าซ้ำซาก)

6. ทุจริต นมโรงเรียน (มันโกงแม้กระทั้งเด็กนักเรียน)

7. ทุจริตเครื่องชี้ระเบิด “GT 200” และเครื่องตรวจหาสารเสพติด “ALPHA 6”

ยุคทักษิณปี 48 ซื้อมาใช้ 4 เครื่อง ราคาเครื่องละ 2 หมื่น

ยุคสุรยุทธ์ปี 49 สั่งเพิ่มมาอีก 500 เครื่อง เครื่องละ 7 หมื่น

ยุคอภิสิทธิ์ปี 52 ซื้อเพิ่มอีก 2,000 เครื่อง เครื่องละ 1.4 ล้านบาท (แต่ยังส่งไม่ครบ 2 พันเครื่องเรื่องแตกเสียก่อน)

(สุดยอดของมหกรรมหลอกลวงต้มตุ๋น)

8. คดีทุจริตเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองที่ได้รับจากกกต.29ล้าน แล้วก็สร้างหลักฐานเท็จในการใช้เงิน เนื่องจากกระทำการเข้าข่าย มาตรา 62 และ65 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมือง 2541 และมาตรา82และ 93 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมือง 2550 จากกรณีใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และเป็นที่มาของคดียุบพรรคประชาธิปัตย์

9. คดีการรับบริจาคเงิน รับเงินใต้โต๊ะ 258 ล้านจากประชัย และยักย้ายถ่ายเทเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของปปช. และเป็นที่มาของคดียุบพรรคประชาธิปัตย์

ล่าสุด มีความพยายามจะแก้กฎหมายมาตรา 237 เรื่องการยุบพรรค ( เมืองไทยถึงยุคโจรเสื้อนอกครองเมือง )

10. รถเมล์ 4,000 คัน(โกงแบบอุบาทมากๆหน้าด้านสุดๆ)/ ล่าสุด คมนาคม ตั้งเรื่องของบประมาณปี 55 สูงถึง 2.3 แสนล้าน เพิ่มขึ้นจากงบปี 54 กว่า 117%

11. ย้ายดอนเมือง “อนุมัติสร้างสุวรรณภูมิ”ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นแต่เพื่อจะแดกกัน/

12. จะ “แปรรูปการรถไฟ”ทั้งๆที่มีกระแสต่อต้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจและสัมปทานของรัฐ/

13. โครงการ “ สปก 4-01” ก็จะเอามาปัดฝุ่นและก็โกงอีกยังไม่เข็ด/

14. เรื่อง “เขาพระวิหาร”ก็โกหกประชาชนจนเขาจับได้ว่าไปเจรจาสวมรอยผลประโยชน์แทนทักษิณ จนฮุนเซนยกสัมปทานน้ำมันให้ต่างชาติในเขตอ่าวไทยก็ยังเฉยไม่เดือดร้อนอะไร

และ “ต้นเหตุ”ของการเสียดินแดนคือ MOU ปี 43 ลงนามโดย “นาย ชวน หลีกภัย” โดยไม่ผ่านสภา เป็นการรับรองแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000

ล่าสุด !!!จะแก้กฎหมาย มาตรา 190 เรื่องการทำหนังสือสัญญาระหว่างรัฐที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาและต้องทำประชาพิจารณ์ ( ต่อไปแอบไปเซ็นต์ขายชาติที่ไหนก็ได้ประชาชนหมดสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลจะได้กินได้โกงกันแบบสบายใจ)

15. ทักษิณจัดงานวันเกิดล่ารายชื่อกดดันในหลวง อภิสิทธิ์บอกจะไปเตะบอล

16. เคลือข่ายวิทยุและดาวเทียมเสื้อแดงรัฐบาลก็ปล่อยให้โจมตี สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ได้อย่างเสรี

17. วางแผนแก้กฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้พวกทักษิณและสส. เสื้อแดงหวังเงินแบ่งหลายหมื่นล้านถ้าทำสำเร็จ(คงจะยากข้ามศพพันธมิตรไปเสียก่อน)

18. ขึ้นภาษีอย่างไม่สนใจหัวใจคนในชาติว่าจะแบกภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้อย่างไร เช่น น้ำมันขึ้นเกือบ10 บาทต่อลิตร

19. ใช้สื่อของรัฐไปในทางหาเสียงโฆษณายังกับสินค้าให้รัฐบาลของตน และพูดอยู่ข้างเดียว

20. ยัดข้อหาพันธมิตรทั้งๆที่รู้อยู่แกใจว่าพันธมิตรไม่ผิดหวังจะสกัดการเมืองใหม่ อนาคตจะได้ผสมพันธุ์กับพวกหางแดง

21. เล่นละครเตือนเสื้อแดงเบ้างเป็นระยะเพื่อให้ภาพออกมาว่าเป็นกลางกับทุกฝ่ายแต่หลับตาข้างหนึ่งให้สีแดงเสมอจนกระทั้งบุก ถึงวังที่หัวหินรัฐบาลก็เฉยไม่รู้เรื่อง

22. ส.ส. 14 คนของประชาธิปัตย์ถูกเฉชือดและรอคิวอีก 40 คนจาก กกต ว่าทุจริตถือหุ้น และหุ้นส่วนใหญ่จะเป็นสัมปทานของรัฐ เช่น
1 ปตท. /
2 ขสมก /
3 บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น /
4 บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) /
5 บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) /
6 บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) /
7 บริษัท โทเทิลแอคแซสคอมมูนิเคชั่น จำกัด /
8 ถือหุ้นบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ฯลฯ

23. สส. ประชาธิปัตย์ทุจริตโครงการ “ชุมชนพอเพียง”

24. โกงคอมพิวเตอร์โรงเรียน (เครื่องละ 60,000 บาท)

25. กระทรวงสาธารณสุข ล็อกสเปค 3 ครุภัณฑ์ เอื้อเอกชน เครื่องดมยา - ตรวจหัวใจ – ตรวจสารชีวเคมีในเลือด

26. สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ก็ถูกเปิดโปง ความไม่ชอบมาพากล ในการใช้ “งบประชาสัมพันธ์”ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

27. ผู้ใหญ่ ร.ฟ.ท.สั่งหยุดเดินรถไฟเพื่อดิสเครดิตสหภาพฯเปิดทางรัฐบาลเข้าแปรรูป(รัฐบาลประชาธิปัตย์เลวไม่ต่างอะไรกับ รัฐบาลทักษิณ)

28. รัฐบาลประชาธิปัตย์เจรจากับประเทศสมาชิกเพื่อเปิดเสรีการลงทุนในอาเซียนทางภาคเกษครกรรม(ACIA) 3 สาขา ได้แก่

1การเพาะขยายและปรับปรุงพันธุ์พืช

2 การทำประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

3 การทำป่าไม้จากป่าปลูก

(เป็นการเร่งให้เกิดการกว้านซื้อและเช่าพื้นที่เกษตรกรรมและกลุ่มทุนต่างชาติเข้าไปใช้ประโยชน์จากทรัพยากรพันธุกรรม / การจดสิทธิบัตรจากสายพันธุ์พืชไทย
ในขณะที่มีบริษัทเมล็ดพันธุ์ข้ามชาติรายหนึ่งกำลังผลักดันกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืชเพื่อไม่ให้แบ่งปันผลประโยชน์กับรัฐและชุมชน)
ซึ่งจะบังคับใช้ในปี 2553 เท่ากับเป็นการทำลายเกษตรกรและคนส่วนใหญ่ของประเทศ
(ข้อนี้เลวมากจริงๆจะขายชาติขายแผ่นดินไปถึงไหน)

29. เปิดเอกสารจับโกหก “เทพเทือก” เป็นผู้สั่งจ่ายเงินงวดสุดท้าย เอี่ยว “ทุจริตจักรยานยนต์ไทเกอร์” กว่า 429 ล้านบาท ขณะที่เจ้าตัวทำมึนงง อ้างเรื่องเกิดก่อนเป็น รองนายกฯ

30. นายสุเทพในฐานะประธาน คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ละเมิดกฏหมาย คว่ำมติ ปปช.
กรณีชี้มูลความผิดนายตำรวจ 3 นายในคดีสลายม็อบ7ตุลาคม ซึ่งคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา และศาลรัฐธรรมนูญเคยมีมติยืนยันแล้วว่า ก.ตร.ไม่มีสิทธิโต้แย้งมติป.ป.ช.เหมือนมีคำสั่งประหารชีวิตไปแล้ว แต่มาเปลี่ยนแปลงอีกไม่ได้
(การกระทำอย่างนี้ถือว่านายสุเทพและรัฐบาลเป็นผู้ทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างเลวร้ายที่สุด)

31. มอมเมาประเทศชาติด้วย “หวยออนไลน์”เป็นอบายมุขทั้งๆที่พันธมิตรได้เคยต่อสู้กับทักษิณมา ยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ มีมติอนุมัติหน้าตาเฉยเลย ล่าสุดไม่เห็นด้วยทำไมไม่แสดงความเห็นคัดค้านตั้งแต่แรก ( เบื้องหลังรัฐเบรกหวยออนไลน์ 1) กลัวท่อน้ำเลี้ยงแห้ง 2) ยี่ปั๊วรายใหญ่ที่มีสายสัมพันธ์มายาวนานเสียประโยชน์ )

32. “กอร์ปศักดิ์”เลิกขวางขายข้าวโพด แต่กว่าจะจบรัฐเสียหาย 5 พันล้าน ( เจ็บปวดจริงๆเงินภาษีประชาชนทั้งนั้น)

33. เผยแผ่นซีดี “รักหรือทำลาย ประเทศไทย”โจมตีเหมารวมทั้งคนเสื้อเหลือง-เสื้อแดง แจกบนที่ว่าการอำเภอถลาง เป็นฝีมือของรัฐบาลชัดเจน

34. กรณีการจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูง จำนวน 232 คัน ตามสัญญาเลขที่ 11/2549 ของกระทรวงสาธารณสุข ถังออกซิเจน-ชุดปรับความดันในรถพยาบาลฉุกเฉินฉาวของกระทรวงสาธารณสุข นำเข้าไม่ผ่าน อาหารและยา เตรียมดำเนินคดีบริษัทฐานนำเข้าเครื่องมือแพทย์ที่ห้ามนำเข้า จำคุก 5 ปี ปรับ 2.5 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ

35. ขึ้น “ค่าโทลเวย์แพง”เกินเหตุเอื้อประโยชน์เอกชน ขูดเลือดขูดเนื้อประชาชน ล่าสุด ( มูลนิธิเพื่อ ผู้บริโภคร่วมมือนักกฎหมาย ฟ้องกรมทางหลวง รมต.คมนาคม และคณะรัฐมนตรี ต่อศาลปกครอง ให้เพิกถอนสัญญาสัมปทานกรณีโทลล์เวย์ )

36. กรณี “มาบตาพุด” จน สภาทนายความฯ ออกแถลงเตือนรัฐบาลและเอกชนอย่าข่มขู่ประชาชน บิดพลิ้วไม่ปฏิบัติตาม
คำสั่งศาลปกครองสูงสุดให้เร่งแก้ปัญหามลพิษมาบตาพุด เตรียมยื่นคำร้องละเมิดอำนาจศาล สร้างความแตกแยกและมีแต่จะเอาชนะประชาชน( ประชาชนมาก่อนหรือประชาชนตายก่อนอยากขอถามรัฐบาล)

37. นพ.บรรลุ ศิริพานิช ประธานคณะกรรมการสอบสวนการ “ทุจริตโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข”แถลงผลการสอบสวนว่า การจัดตั้งงบประมาณของโครงการนี้ มีพฤติกรรมพยานหลักฐานทำให้เกิดการทุจริตจริง ได้แก่ การขอตั้งงบประมาณสิ่งก่อสร้าง ครุภัณฑ์การแพทย์ และรถพยาบาล ราคาตั้งไว้สูงเกินจริง ซึ่งส่อเจตนาการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากไม่สามารถปัดความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นผู้บริหาร ถือว่ามีส่วนเปิดช่องทางให้มีการทุจริต นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลโครงการไทยเข้มแข็ง แต่มีพฤติกรรมก้าวก่าย ล้วงลูก กดดัน ให้มีการจัดสรรงบประมาณเกินจำเป็น ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ( เวรกรรมเห็นทันตา )

38. ครม.เห็นชอบแผนปฎิรูป ร.ฟ.ท. แถมได้งบเพิ่มจาก 1 แสนล้านบาทเป็น 1.5 แสนล้านบาท ตีตกความเห็น สศช.เสนอตั้งกรมรถไฟหลวง แยกงานโครงสร้างพื้นฐาน ทำแบบก้าวกระโดดเพื่อทำลายสหภาพฯ จากนั้น ครม.สั่ง ร.ฟ.ท.ทำรายละเอียดแผนลงทุนแต่ละโครงการภายใน 45 วัน สบช่องสั่งเดินหน้าตั้งบริษัท ลูกแอร์พอร์ตลิ้งค์ (ตั้งหน้าตั้งตาแดกกันจริงๆ)

39. ทุจริต “การจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์” ภายใต้โครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข็มแข็ง (SP2) ปี 2553 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) วิทยาลัยอาชีวศึกษา 415 แห่งมีมติร่วมกันที่จะไม่รับวัสดุครุภัณฑ์การฝึก ราคาแพงเกินจริง ครุภัณฑ์ด้อยคุณภาพไม่ตรงความต้องการใช้ในการเรียนการสอน(เวรกรรมมีจริง)

40. กรณี “มาบตาพุด” นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยื่นศาลปกครองสูงสุดฟ้องนายอภิสิทธิ์และครม.ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานฯ ขอไต่สวนฉุกเฉินและคุ้มครองชั่วคราว ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประสานงานการให้ความเห็นขององค์การอิสระในโครงการหรือกิจกรรมที่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง พ.ศ.2553 พร้อมขอเพิกถอนคณะกรรมการประสานงานการให้ความเห็นขององค์การอิสระในโครงการ หรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง และ ยังไม่เคยถามความเห็นประชาชนก่อนออกกฎหมาย คณะกรรมการประสานงานฯชุดนี้ โดยส่วนใหญ่จะกำหนดให้เป็นบุคคลจากทางภาครัฐและไม่มีภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม (เลวมากเห็นประชาชนเป็นผักเป็นปลา)

41. ผลสอบ สตง. ระบุชัด ปตท.ยังส่งคืนสมบัติแผ่นดินให้กระทรวงคลังไม่ครบถ้วนตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด โกงท่อก๊าซฯบนบกและในทะเลมูลค่ารวม 32,613 ล้านบาท คุณ รสนา"ได้ส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายกรณ์ จาติกวณิช และอธิบดีกรมธนารักษ์ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2553 ที่ผ่านมา เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ติดตามเรียกคืนทรัพย์สินจาก ปตท เพิกเฉยเจอม.157 ข้อหาละเว้น
“ครม.อภิสิทธิ์”ทราบเรื่อง ตั้งแต่ปลายเดือนธ.ค.ปีที่แล้วแต่ทุกฝ่ายกลับอุบเรื่องเงียบ ( รัฐบาลนี้ไม่มีความแตกต่างจากรัฐบาลทักษิณออกกฎหมายเพื่อล้มล้างความผิดของตนเอง และมีผลบังคับใช้ 3 วันก่อนมีคำพิพากษา )

42. โกงเรื่องต่อสัญญาช่อง 3 รับเงินใต้โต๊ะ รู้เห็นเป็นใจโดยข้าราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชงเรื่องให้นายสาทิตย์ วงษ์หนองเตย รัฐมนตีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พิจารณาว่า ไม่ต้องนำเรื่องการต่อสัญญาช่อง 3 นี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพื่อ จะได้หลีกเลี่ยงพระราชบัญญัติร่วมทุนนั่นเอง เพื่อให้ อสมท สามารถจัดการเองได้ทันที นายสาทิตย์ได้ลงนามไปเรียบร้อยแล้วว่า ไม่ต้องนำเรื่องเข้าสู่การประชุม ครม.และการที่ อสมท ต่อสัญญาให้ ช่อง 3 อีก 10 ปี ซึ่งจะครบสัญญาในปี 2563 ส่งผลให้อสมท จะขาดรายได้ถึงกว่าหมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน(สื่อชั่ว +รัฐบาลเลว )

43. โกง “รถไฟฟ้าสายสีม่วง” อ้างหน้าด้านๆ น้ำมันขึ้นราคา ทั้งที่มีค่าเค ลดงบรื้อถอนสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มงบค่างาน หาเงินด้วยการโกงบ้านกินเมืองนับหมื่นล้าน “อภิสิทธิ์”แค่เซ็น รับทราบ แต่ปล่อยให้สร้างต่อ เท่ากับหลับตาร่วมกันโกง (นายกฯอภิสิทธ์ชักทำตัวเหมือนศรีธนญชัย)

44. นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์เฟสบุ้ค โดยกล่าวพาดพิงทำลายพันธมิตรฯและพรรคการเมืองใหม่อย่างชัดเจนทำให้เกิดความเสียหายและเข้าใจผิด แถมยังมาปล่อยข่าวปั่นหุ้นดาวเทียมไทยคม
ล่าสุดออกมาโพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์เฟสบุ้คนายกฯ โดย กล่าวคำที่ปกปิดความจริง เล่นคำ ตัดสาระสำคัญในเอกสาร หลอกลวง คนไทยทั้งชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แผนที่เติม (s) และ เรื่อง แผนที่ 1:200,000 ทุกฉบับ แล้วยกเว้น เฉพาะแผนที่ 1:200,000 บริเวณปราสาทพระวิหาร ทั้งๆที่ในเอกสารไม่ได้ระบุ “ข้อยกเว้น”ตามที่ นายศิริโชค โสภา พยายาม “ผายลม” ออกมาแต่เป็นการตีความเอาเองโดยฝ่ายเดียวแบบศรีธนญชัย เพราะใน เอกสาร MOU 2543 ชี้ชัดเจน ว่ายอมรับแผนที่ฝรั่งเศษจัดทำขึ้น

45. อ้างเรื่อง “โรดแมป” มาบังหน้า แผนปรองดองก็คือแผนยกประเทศให้โจร เหตุเพราะ
1 สามารถใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีได้เต็มปี และสามารถจัดสรรงบประมาณในปีหน้า
2 โยกย้ายข้าราชการได้ทั้งหมด โดยเฉพาะ ทหารและตำรวจ
3 สามารถใช้เวลานี้สมคบกับนักการเมืองทุกฝ่ายแก้ไขกติกา รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองกันเองทั้งสิ้น (รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบพรรค)

46. ทุจริตโครงการเช่าระบบการให้บริการประชาชนด้านการ “ทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่”วงเงิน 3.4 พันล้านบาทแก้ไขทีโออาร์เพื่อเอื้อประโยชน์เอกชนบางราย

47. ทุจริตโครงการ “ถนนปลอดฝุ่น” (ถนนไร้ฝุ่น) หนึ่งในโครงการไทยเข็มแข็ง ที่มีมูลค่าโครงการกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท

48. ทุจริตงบ “ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน” โดยเฉพาะงบภัยหนาวที่จังหวัดใช้เงินทดลองราชการได้ครั้งละ 1 ล้านบาท

49. ทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอที่ระบุว่ามี “ข้อสอบรั่ว” ช่วยเหลือ 140 ปลัดให้สอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอแลกกับการแลกผลประโยชน์รายละกว่าล้านบาท เพราะเป็นไปไม่ได้ 140 คนตอบข้อสอบเหมือนกันทุกข้อ

50. กรณี “การซื้อขายตำแหน่ง” ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องจ่าย 20 ล้านบาท รองผู้ว่าฯจ่าย 17 ล้านบาทและถ้าเป็นนายอำเภอ 10 ล้านบาท

51. นโยบายรัฐที่เข้าไปแทรกแซงควบคุมปริมาณการเลี้ยงไก่ไข่ ทำให้เกิดการผูกขาด ทำลายเกษตรกรรายย่อยจนพินาศชิบหายหมดอาชีพ จนกลายเป็นการสมรู้ร่วมคิดระหว่างข้าราชการและทุนใหญ่ 9 ราย ดังต่อไปนี้
1 บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร
2 บจก. อาหารเบทเทอร์
3 บจก. แหลมทองฟาร์ม
4 บจก. ฟาร์มไก่พันธุ์เกิดเจริญ
5 บจก.ฟาร์มกรุงไทย
6 บจก.ยูไนเต็ดฟีดดิ้ง
7 บจก.ยู่สูงอาหารสัตว์
8 บจก.สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี
9 หจก. อุดมชัยฟาร์ม

ล่าสุด เกษตรกร 113 ราย ได้รวมตัวยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง และศาลได้รับคำร้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 522/2553 แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนว่า มีคำสั่งทางปกครองที่ทำให้เกิดการผูกขาดละเมิดรัฐธรรมนูญ

52. ทุจริต “มอเตอร์เวย์”บางประอิน-โคราช 5.9 หมื่นล้าน ภาคประชาชนขู่ฟ้องศาลปกครองคระงับโครงการ ส่อพิรุธงบเดิม 2 หมื่นล้านพรวดเป็น 5.9 หมื่นล้าน

53. ทุจริต “ถนนเขาใหญ่” ล่าสุดกรมป่าไม้เตรียมเอกสารหลักฐานยื่นฟ้องร้องกรมทางหลวงและองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) แล้ว และจะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

54. มหาดไทยส่อพิรุธ!! ปรับลดงบฯ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) “หมื่นล้านประเคน ส.ส.ทำโครงการ” กระทรวงมหาดไทยจะนำเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาทที่มีการปรับลดนั้นไปจัดสรรเอาไว้ในส่วนขององค์กรกรปกครองส่วนท้องถิ่นตามโครงการก่อสร้างถนนไร้ฝุ่น และก่อสร้างลานกีฬาเพื่อสร้างสังคมไทยเป็นสุข ปีงบประมาณ 2554 กระจายลงไปในทุกพื้นที่ การนำเงินส่วนนี้มาจัดสรรให้กับพื้นที่ของ ส.ส. งบท้องถิ่นควรปล่อยให้ท้องถิ่นบริหารกันเอง
ซึ่งอาจจะทำให้ “ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 265 และ 266” ที่กำหนดไม่ให้ใช้สถานะหรือตำแหน่ง ส.ส.เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตัวเอง

55. ฉีกหน้ากาก!!คณะกรรมการฯแก้ไขปัญหามาบตาพุดชุด “นายอานันท์” ยัดเยียด 18 ประเภทโครงการส่ง “ผลกระทบรุนแรง”ให้ “นายอภิสิทธิ์” ประกาศใช้
การดำเนินการที่ “ขัดหรือแย้งต่อเจตนารมณ์” ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 มาตรา 67 วรรคสอง โดยชัดแจ้ง รวมทั้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2552 อีกทั้งยัง “ไม่มีกฎหมายฉบับใด” มารองรับอำนาจการประกาศประเภทโครงการทั้งหมด
(ช่วยเหลือนายทุน ขาดจิตสำนึก ประชาชนจะตายช่างหัวมัน เลวได้ใจจริงๆรัฐบาลประชาธิปัตย์)

56. “มาร์ค”แอนด์เดอะแก๊งค์ ร่วมกัน “ปล้นชาติ 2.07 ล้านล้านบาท” ได้ “งบประมาณปี54” ผ่านขาดลอย
หนี้สาธารณะมากถึง 4.5 ล้านล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การปล้นชาติปล้นแผ่นดิน (ขออำนวยอวยพรให้ได้ลงนรกอเวจี)

57. สั่งให้ปลดคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ตำแหน่งผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เพราะ รัฐบาลประชาธิเปรตกำลังถูกตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่น

58. เขมรดูหมิ่นเหยียดหยามบุรพกษัตริย์ไทย "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" "อภิสิทธิ์"ยังเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาว(ผู้นำเลว)

59. ออกหมายเรียกพันธมิตร 79 คน คดีระหว่างสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฟ้องชุมนุมปิดสนามบิน (รัฐบาลประชาธิเปรตอยู่เบื้องหลังการออกใบสั่งชัดเจน!!)

60. ทุจริต!!โครงการเช่าคอมพิวเตอร์เพื่อจัดทำระบบให้บริการประชาชน ทางด้านการทะเบียน และทำบัตรประชาชนแบบใหม่ ของกรมการปกครอง เอื้อเอกชนไม่เป็นไปตามทีโออาร์เจตนาโกง 3,490 ล้านบาท กับบริษัท คอนโทรล ดาต้า (ประเทศไทย) จำกัด

61. คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบพบการทุจริตในสำนักงานการอาชีวศึกษา กรณีเปิดประมูลโครงการที่เกี่ยวข้องกว่า 136 โครงการ มูลค่า 5,300 ล้านบาท (ตั้งหน้าตั้งตาแdกกันเต็มที่)

62. กรณีที่ นาย “ชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์” ถูกองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน มีคำพิพากษาคดีที่ ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกล่าวหา จงใจยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของตนเองหรือคู่สมรส หรือบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ม.263 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ( ป.ป.ช. ) พ.ศ.2542 ม.119 โดยป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายชุมพล เมื่อวันที่ 26 พ.ย.52 ว่า ปกปิดข้อเท็จจริงในบัญชีหนี้สินของตัวเอง 13 ครั้ง ตั้งแต่เป็น ส.ส.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2540 โดยพบว่ามีการปกปิดหนี้สินของตัวเองในบริษัทแห่งหนึ่งเป็นจำนวนหลายบัญชี
(ส่วนนาย แสงโรจน์ กาญจนะ ลูกชายนายชุมพล ก็ก่อคดีอุกฉกรรจ์ในท้องที่ สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานีหลายคดี เช่น สับกุญแจมือข่มขืนแด็กนักเรียนอาชีวศึกษาหลานสาวตำรวจยศ พ.ต.ท.ขึ้นรถพาไปขืนข่นที่บ้านพัก / ก่อเหตุดวลปืนยิงตำรวจ สภ.อ.พุนพิน ที่ชาร์กี้ผับ / ใช้อาวุธปืนยิง นายกิตติ วิเศษสมบัติ พนักงานขับรถสำนักงานสรรพากร ภาค 11 สุราษฎร์ธานี เสียชีวิต / ก่อคดีข่มขืนวิตถารสาวพม่าจนไส้แตก แล้วแถมด้วยการฆ่าปิดปากจักรยานยนต์รับจ้างที่เข้าไปช่วยนำเหยื่อสาวชาวพม่าไปส่งโรงพยาบาล )

63. พรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอภิสิทธิ์หุ่นเชิด, กระทรวงการคลัง, นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีไอซีที ที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ มีความพยายามใช้เล่ห์เหลี่ยม พลิกวิธีหลายตลบ หาเศษหาเลยจากการประมูล 3G
จนศาลปกครอง ต้องสั่งระงับการประมูลเพราะทำผิดกฎหมาย มันก็ยังจะหน้าด้านหาวิธีแdกให้ได้
ล่าสุด ครม.อนุมัติ เงินงบประมาณ 1.9 หมื่นล้าน ให้ “ทีโอที” ตั้งบริษัทลูกขยายโครงข่าย 3จี สุดยอดวิชาโกงกินชาติจริงๆ

64. รายชื่อสส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้าข่ายขัดมาตรา 48 และถือครองหุ้นบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐ หรือคู่สัญญาอันมีลักษณะผูกขาดตัดตอน ขัดมาตรา 265 (2) จ่อถูกเชือด มีดังต่อไปนี้

1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และ ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นในบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
2.นายอนุชา บูรพชัยศรี ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
3.นายสมเกียรติ ฉันทวานิช ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
4.นายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
5.น.ส.นริศา อดิเทพวรพันธุ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)
6.นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)
7.นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร ส.ส. นครสวรรค์ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
8.นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน)
9.นายวิชัย ล้ำสุทธิ ส.ส. ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
10.นายเจือ ราชสีห์ ส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
11.นายลาภศักดิ์ ลาภาโรจน์กิจ ส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
12.นางนิภา พริ้งศุลกะ ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
13 .นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส. สัดส่วน กลุ่มที่ 8 พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
14.น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ส.ส. สัดส่วน กลุ่มที่ 8 พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน)
ส่วน ส.ส. ที่ถูกร้องแต่พบว่าถือหุ้นในบริษัทที่ กกต.มีมติว่าไม่เข้าข่ายห้ามถือ
1.นายสกลธี ภัทิยกุล ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน)
2.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
3 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
4.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
5.นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส. นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
6.นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
7.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส. ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
8.นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส. พังงา พรรคประชาธิปัตย์ถือหุ้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
9.นายวินัย เสนเนียม ส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน)
10.พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี ส.ส. สัดส่วน กลุ่มที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

65. งบประมาณการประชาสัมพันธ์ ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในแต่ละปีกระทรวงพาณิชย์มีวงเงินด้านนี้สูงนับพันล้านบาท ก็มีข่าวทุจริต ใช้ บริษัท อ.ส.ม.ท. จำกัด (มหาชน) เป็นฉากหน้าเพื่อผ่องถ่ายงบประมาณให้บริษัทเอกชนของนักการเมือง
ใช้ชื่อโครงการว่า “โครงการเผยแพร่สื่อโทรทัศน์และพาณิชย์สร้างสรรค์” มีมูลค่าโครงการที่ลงนามกับ อ.ส.ม.ท. 50 ล้านบาท แต่ในข้อเท็จจริง อ.ส.ม.ท.มีรายได้เข้าบริษัทจากโครงการนี้เพียง 4.5 ล้านบาทเท่านั้น ที่เหลือ 45.5 ล้านบาท ถูกงาบโดยบริษัทในสังกัดนักการเมือง แล้วยังมีการต่อยอดโครงการ ระยะที่สองเพิ่มงบประมาณอีก 70 ล้านบาท รวมมูลค่า 120 ล้านบาท

66. ทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่ง สวมสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือ / กรณีจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยไม่ถึงมือผู้เดือดร้อน แต่กลับไปมอบให้หัวคะแนน / กรณีสวมรอยหาเสียงโครงการแจกข้าวถุงเฉลิมพระเกียรติ

67. แก้...รัฐธรรมนูญ มาตรา 93 - 98 เขตเลือกตั้ง เป็นแบบเขตเดียวเบอร์เดียว “หวังซื้อเสียง”
แก้... มาตรา 190 ว่าด้วยการจัดทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ “ หวังขายชาติ”

68. ทุจริตให้มีการนำ เงินสงเคราะห์ปลูกยางพารา (CESS) ไปชดเชยให้กับผู้ส่งออกที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกำหนดอัตราการจัดเก็บเงินสงเคราะห์อัตราใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2553 ที่เสนอขึ้นมาจากคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) โดยมี สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คิดเป็นมูลค่า ประมาณ 3,000 ล้านบาท

69. กระจายกันแdกพลาญเงินภาษีของชาติ !! กระทรวงมหาดไทยขอขึ้นเงินเดือนสมาชิกองค์กรบริหารส่วนตำบล (อบต.) ว่า ในที่ประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อนุญาตให้กระทรวงมหาดไทยขึ้นเงินเดือนให้กับสมาชิก อบต. อย่างน่าเกลียดสุดๆ !!!ทั้งๆหนี้สินของประเทศแม้แต่ดอกเบี้ยยังไม่มีปัญญาจะจ่าย

ล่าสุด “อภิสิทธิ์” พลาญเงินภาษี ชง ครม.ขึ้นเงินเดือน ให้ตัวเองและ ส.ส. ( ยังเลวต่อได้อีก)

70. บังอาจยักยอกเงิน !! โครงการงานราตรีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชชินีนาถ glory of silk flower of love โดยเอามูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจการพาณิชย์ IBERD มาบังหน้า ทั้งๆที่การจัดงานกาลาดินเนอร์ในลักษณะขายโต๊ะไม่ได้อยู่ใน TOR ที่ได้เซ็นสัญญากับ อ.ส.ม.ท. ตั้งแต่ต้น โครงการนี้มีมูลค่าถึง 148 ล้านบาท มีรายได้เข้าอ.ส.ม.ท. เพียง 27 ล้านบาท
ที่เหลืออีก 121 ล้านบาทผ่องถ่ายให้กับสามบริษัทได้แก่ บริษัท 365, บริษัทบางกอกโชว์เคส และบริษัทเมมฟิส ที่เป็นพรรคพวกของตัวเอง

71. รัฐบาลเกี้ยเซี้ยเอี้ยแดงชัดเจน !! คดีก่อการร้าย, เผาเมือง ,วางระเบิด, ปล้นห้าง, ยิงเอ็ม 79 ,ใช้อาวุธสงครามร้ายแรง, โค่นล้มสถาบัน โดยรัฐบาลออกมติคณะรัฐมนตรีให้ปล่อยตัวผู้ร่วมชุมนุมเหตุการณ์เดือน เม.ย.ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจำนวน 104 คน เป็นการก้าวล่วงอำนาจศาล แทรกแซงอำนาจตุลาการแบบทุเรศที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย และปิดกั้นความยุติธรรมที่ต้องให้แก่ประชาชน ( รัฐบาลประชาธิเปรต เลวเข้าขั้นโคม่า )

72. ทุจริตในโครงการระบายข้าว นายวีระศักดิ์ จินารัตน์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)ของวิทยาลัยโปลีเทคนิค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปใช้ดำเนินการระบายข้าวออกจากโกดังให้กับบริษัท เอ็ม ที เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีส่วนได้เสียและมีผลประโยชน์โครงการระบายข้าว โดยนายวีระศักดิ์ จินารัตน์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำเงินกยศ.ไปให้บริษัทฯดังกล่าวยืมในฐานะรู้จักกันเป็นส่วนตัว ซึ่งกมธ.ได้ตั้งเป็นข้อสังเกตว่าบริษัท เอ็ม ที เซ็นเตอร์ มีข้าวที่จะประมูลเกือบ 6,000 ล้านบาท เหตุใดจึงไม่มีเงินประกันที่มีวงเงินเพียง 25 ล้านบาท

73. แฉทุจริตในการแทรกแซงตลาดข้าวของรัฐบาล คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เห็นควรให้รัฐบาลออกคำสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ กองทุนร่วมเพื่อช่วยเหลือเกษตกร และหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการโครงการรับจำนำ เร่งรัดจัดทำรายงานการเงินและปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกทุกโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี

"การที่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญที่จะดำเนินการใดๆ กับข้าวที่ค้างอยู่ในโกดัง จนก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาประมาณ 810 ล้านบาทต่อเดือน การเสื่อมสภาพของข้าวที่ค้างอยู่ในโกดังกลาง เท่ากับเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติได้"

74. ปัญหาการสำรวจผลผลิตของครัวเรือนที่ทำประกัน และข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกจริงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวพบว่า การแจ้งจำนวนพื้นที่และผลผลิต ซึ่งเป็นเงื่อนไขการรับเงินค่าชดเชยส่วนต่างมีจำนวนสูงกว่าความเป็นจริง ส่งผลให้ต้องจ่ายเงินค่าชดเชยส่วนต่างให้เกษตรกรเกินความเป็นจริง และส่งผลกระทบต่อภาระงบประมาณ

75. คนในพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนเกี่ยวข้อง ลักลอบนำน้ำมันปาล์มเถื่อนจากมาเลเซียมากักตุนไว้ที่ภาคใต้ อยู่ในคลังน้ำมันเถื่อน จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นกระทรวงพาณิชย์รับลูก แอบอนุญาตให้ผู้ค้าขึ้นรวดเดียว 9 บาท ซึ่งความต้องการบริโภคของคนไทยในหนึ่งเดือนประมาณ 1 แสน 2 หมื่นตัน นำเข้าลิตรละประมาณ 30 บาท ขายลิตรละ 47 บาท ( เลวได้ถ้วยชั่วได้ใจ)

76. วิปริตวิตถารไอ้หัวถุงยาง “สอยนายทวารประตู” ของศิริโสโครก ในราบ 11 ในขณะที่หางแดงเผาบ้านเผาเมือง (โอ้ววว..จอร์จ ..นายเอี้ยมาก)

77. คดีการก่อการร้าย คดีล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และลงขันรุมฆ่า คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็กลายเป็นเพียงแค่ “ละครน้ำเน่า” ที่ทำให้ดูขึงขังหลอกประชาชนเท่านั้น

78. กรณีเลี่ยงภาษีบุหรี่ของบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายบุหรี่ ยี่ห้อ LM และ Marlboro รัฐบาล สมยอม และแทรกแซงให้ประเทศเสียประโยชน์ โดยให้นายเกียรติ สิทธีอมร ผู้แทนการค้าไทย ดำเนินการเรื่องนี้กับองค์การการค้าโลก (WTO) และเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ผ่านขั้นตอนของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เท่ากับเป็นการแทรกแซงจนในที่สุด อัยการก็สั่งไม่ฟ้อง ทำให้ประเทศเสียหายไป 6 หมื่น 8 พันล้านบาท

79. ถลุงงบประมาณ อนุมัติงบกว่า 4.7 พันล้านบาท ใช้พัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศทั้ง 9 ศูนย์

80. รัฐบาลหมดเม็ด ปกปิดความจริง งบซื้อรถถังขนาดเบาของยูเครน 7,200 ล้านบาท ก็ไม่มีไว้ในเอกสารรายละเอียดที่ฝ่ายรัฐบาลนำแถลงแจกแจง

81. ส่อทุจริตส่อจัดซื้อจัดจ้างกล้ายาง โครงการส่งเสริมปลูกยาง 8 แสนไร่ ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ หมกเม็ดอ้างต้นทุนเพิ่ม-กล้ายางขาดขอปรับราคาประมูลเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทั้งที่กรมวิชาการเกษตรสำรวจกล้ายางมีมากพอปลูกถึง 2 - 3 ล้านไร่

82. ตั้งใจผลาญงบอนุมัติงบกลางใช้งบฉุกเฉินหมดเกลี้ยง กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นรวม 1.37 หมื่นล้านบาท
โดยโครงการต่างๆไม่เข้าข่ายเป็นกรณีฉุกเฉิน หรือมีความจำเป็นมันควรจะเป็นรายจ่ายประจำของกระทรวง หรือหน่วยงานที่ รับผิดชอบ
เช่น 1) โครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาชีพ วงเงิน 96,720,000 บาท
2 )โครงการกรุงเทพฯ เมืองปลอดภัยห่างไกลอาชญากรรมตามโครงการปฏิบัติการประชาวิวัฒน์ แผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทย จำนวนเงินทั้งสิ้น 123 ล้านบาท
3 ) อนุมัติงบยุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนาการประกันภัยพืชผลและโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2554 จำนวน 4,042,807,285 บาท

83. ฉวยโอกาสแdกด่วนปล้นชาติซ้ำเติมแผ่นดินโดยรัฐบาลบักห่าอภิสิทธิ์ อนุมัติงบประมาณถลุงกว่า “แสนล้านบาท”ภายในวันเดียว!!ให้กับกระทรวงต่างๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคร่วมรัฐบาลกำกับดูแลอยู่ รวมทั้ง ทหาร ตำรวจ มีวาระพิจารณา เพื่อทราบ และวาระจร วาระผูกพันแล้วแต่จะมาในสารพัดชื่อเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ

ผลของกรรมเริ่มทำงานแล้ว “นตฺถิ กมฺมสมํ พลํ ไม่มีอานุภาพใดที่จะมีกำลังมากยิ่งกว่าอานุภาพแห่งกรรมดีและกรรมชั่วไปได้เลย”
.
credit  http://www.manager.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น